รีวิว bubble มาแล้วจ้าาา กลับมาพบกับทางเราผู้ที่ชื่นชอบการดูอนิเมะเป็นชีวิตจิตใจและเรามี รีวิวอนิเมะล่าสุด มาฝากเพื่อนๆ อยู่เสมอๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการ ดูหนังออนไลน์ มาดูอนิเมะสนุกๆ ทางเราก็ขอแนะนำอนิเมะเรื่อง bubble ซึ่งเป็นใครที่อยากเปลี่ยนแนวอนิเมะอยากจะแนะนำเรื่อง another เลยสนุกไม่แพ้กันนะ โดยอนิเมะน่าดู netflix เรื่องนี้มีการบอกเล่าเรื่องราว ณ กรุงโตเกียว เมื่อโลกได้เกิดฟองน้ำที่หล่นมายังบนโลกที่มีแรงดึงดูดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรฟองน้ำได้ ทำให้กรุงโตเกียวถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และกลับกลายเป็นสถานที่ต่อสู้ ของพวกวัยรุ่นที่ชื่นชอบการแข่งแบบปาร์กัวร์ ซึ่งหนุ่มฮิบิกิ เป็นหนุ่มน้อยที่มีชื่อเสียงจากการเล่นที่เสี่ยงอันตรายนั้น เขาได้พลาดท่าตกลงไปในทะเลที่แรงโน้มถ่วงผิดปกติ แต่ก็ถูก อุตะ ช่วยเอาไว้ได้ เขาเป็นเด็กสาวผู้ที่มีพลังลึกลับ หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้ยินเสียงที่มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ได้ยินกัน การพบกันของทั้งสองจะนำไปสู่การเปิดเผยสิ่งที่เปลี่ยนโลกทั้งใบนี้ ใครอยากรู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงยังไงติดตามกันได้เลย

อนิเมะเรื่อง Bubble หรือ บับเบิ้ล เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวในโลกแฟนตาซีไซไฟที่มีองค์ประกอบเบื้องหลังเป็นโตเกียวที่จมอยู่ในฟองสบู่ขนาดยักษ์ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นผลงานอนิเมะญี่ปุ่นของทาง Netflix ที่มีคุณภาพของงานด้านภาพสูงมากในประเภทกลุ่มสตรีมมิ่ง และทำลงโรงฉายด้วยอีกเช่นกัน

เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ใจกลางกรุงโตเกียว ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกอย่างเมืองโตเกียวตกอยู่ในสถานะที่เกิดความเสียหายมาก เมื่อเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่มีฟองสบู่ตกลงมาจากฟากฟ้าเหมือนสายฟ้าเข้าโจมตีเมืองใหญ่นั้น ก่อนที่ฟองเหล่านั้นจะแตกออกและครอบคลุมไปทั้งเมืองให้กลายเป็นพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วง

นับตั้งแต่นั้นมากกรุงโตเกียวก็ถูกทิ้งร้าง และไม่ใช่เมืองหลวงของญี่ปุ่นอีกต่อไป ฮิบิกิ เด็กหนุ่มบ้าบิ่นแต่มีพรสวรรค์ เขาบังเอิญได้ตกลงไปในหลุมบ่วงแรงโน้มถ่วง ก่อนที่จะได้พบกับ อุตะ เด็กสาวที่มีพลังลักลับมาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงพวกเขาเข้าเอาไว้ด้วยกันอย่างน่ามหัศจรรย์

และได้ผู้กำกับอย่าง เทสึโระ อารากิ ที่มีผลงานที่ผ่านมาก็คือ attack on titan anime และ Kabaneri of the Iron Fortress ให้ทุกคนได้ชมกันมาแล้ว และนี่ก็เป็นผลงานชิ้นล่าสุดของเขาที่นับได้ว่าปรับเปลี่ยนแนวเดิมของเขามาสู่อนิเมะสายแฟนตาซีเลิศล้ำด้วยจินตนาการเรื่องนี้ ที่ถือว่าเขาก็ยังคงความคิดที่ถนัดของเขาเข้ามาใส่เป็นองค์ประกอบเสริมได้ช่วยส่งเสริมตัวหนังทั้งเรื่องได้เป็นอย่างดี หนังยังมาพร้อมกับไอเดียและแนวคิดที่ค่อนข้างตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าจะยืนอยู่บนพื้นฐานของสูตรสำเร็จเดิม ๆ ตามแบบฉบับอนิเมะญี่ปุ่น

แถมยังได้นักเขียนบทยอดฝีมืออย่าง เกน อูโระบูชิ ที่มีผลงานมาแล้วจากเรื่อง Psycho-Pass และ Kamen Rider Gaim ที่ถือว่าขัดเกลาบทออกมาได้อย่างดีและเป็นที่น่าพอใจเลยแหละ โดยเฉพาะการหยิบเอาไว้ความคิดเห็นความโดดเด่นระหว่างวัฒนธรรมอนิเมะฉบับญี่ปุ่น มาประกอบเข้ากับตำนานเทพนิยายคลาสสิกระดับสากล ที่เห็นได้ชัดจากในหนังเรื่องนี้เลยก็คือการหยิบยืมกลิ่นอายของ The Little Mermaid เข้ามาเป็นโครงสร้างคร่าว ๆ วางเป็นพื้นฐาน

เหตุการณ์จะเกิด ณ กรุงโตเกียว หลังจากฟองสบู่ที่ทำลายกฎแรงโน้มถ่วงตกลงมาบนพื้นโลก เมืองทั้งเมืองถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แถมยังกลายเป็นสนามเด็กเล่นของเด็กวัยรุ่นที่สูญเสียครอบครัวไป รวมทั้งกลายมาเป็นสนามประลองของทีมปากัวร์ที่กระโดดแข่งกันไปตามตึกต่างๆ 

และวันหนึ่ง ฮิบิกิ เซียนมือฉมังที่เป็นที่เลื่องลือเรื่องสไตล์การเล่นสุดแสนอันตรายได้ทำท่าบ้าบิ่นจนตกลงมาในทะเลที่แปรเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงได้ ซึ่งได้เจอกับ อุตะ เด็กสาวที่มีพลังลึกลับมาช่วยชีวิตเขาไว้ได้ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงประหลาดที่คนอื่นไม่ได้ยิน แล้วทำไมจู่ๆ ยูตะจึงโผล่มาเจอฮิบิกิ การพบกันครั้งนี้จะนำไปสู่การค้นพบที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล

ฮิบิกิ

เด็กหนุ่มผู้ได้ยินเสียงเพลงประหลาด และเป็นหนึ่งในทีมผู้เล่นเกมส์แข่งขันที่เก่งมากคนหนึ่ง สามารถกระโดดบนฟองที่ลอยอยู่ได้อย่างอิสระ ทำให้สามารถชนะคู่แข่งไปได้อย่างเหนือคาด

อุตะ

เด็กสาวปริศนาที่ได้ช่วยชีวิต ฮิบิกิ เอาไว้ดูเหมือนเธอพึ่งจะเรียนรู้เรื่องราวของมนุษย์ และความลับของเธอที่มีบางอย่างเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ระเบิดของฟองที่หอคอยโตเกียว

และนี่ก็ถือว่าเป็นอนิเมะงานสร้างมาตรฐานปล่อยออกมาให้ดูทางโรงภาพยนตร์ผลงานมาจากสตูดิโอ WIT ที่ได้มีผลงานล่าสุดคือเรื่อง Attack on Titan: Chronicle และได้ร่วมกับผู้กำกับ เท็ตสึโระ อารากิ ที่กำกับไตตันฉบับโรงมาเช่นกัน เรื่องนี้คือทำฉายบน netflix original anime โดยตรงก่อนแล้วค่อยฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นเดือนพฤษภาคมภายหลัง ด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวกับโตเกียวถูกน้ำท่วมทำให้อดคิดถึงผลงานของ มาโกโตะ ชิงไก ในเรื่อง Weathering With You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ ไม่ได้เลยจริงๆ มันดูคล้ายกันมาก

แม้สูตรสำเร็จของอนิเมะญี่ปุ่นจะมาแนวๆ นี้กันหมดที่ว่าด้วยเรื่องของคนหนุ่มสาววัยรุ่นมาพบเจอกันโดยมีพลังพิเศษมาเกี่ยวข้องนั้น แต่ก็ต้องบอกว่าเมื่อเทียบกันแล้วผลงานของมาโกโตะ ซิงไก บทมันละเอียดสุภาพนุ่มนวลล้ำลึกกว่ามาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนจะอินหรือไม่อินได้เลย ตัวละครหลักของอนิเมะเรื่องนี้ก็คือ ฮิบิกิ กับ อุตะ ที่ฝ่ายพระเอกคือเด็กหนุ่มผู้หลบหนีปัญหาภายนอกรวมถึงเสียงดังต่างๆ

ในเมืองที่รบกวนเขามาอยู่ในโลกบับเบิ้ลของโตเกียวที่ถูกน้ำท่วมกับมีแรงโน้มถ่วงที่ผิดปกตินั้น ที่ซึ่งเขากลายเป็นเทพปากัวร์ (ฟรีรันนิ่ง) ที่ช่วยทีมทำให้ชนะการเดิมพันด้วยของใช้ในชีวิตประจำวันกับทีมอื่นมาตลอด ซึ่งคนที่อยู่ในนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพวกเด็กวัยรุ่นหนีปัญหามามาใช้ชีวิตอิสระที่นี่ทั้งนั้น ในส่วนของ อุตะ คือสาวน้อยที่เกิดจากบับเบิ้ล และเธอได้หลงรักฮิบิกิแต่แรกเจอ แล้วก็พยายามช่วยเขาจากอุบัติเหตุจนกลายมาเป็นสมาชิกในทีมที่มีฝีมืออีกหนึ่งคน แต่เธอก็เป็นตัวละครที่ไขความลับปริศนาต่างๆ ของเรื่อง ในเวลาต่อมา ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับ อามาโนะ ฮินะ ในเรื่อง Weathering With You เลยแต่ระดับความลึกของเรื่องต่างกันมากอยู่เช่นกัน

เพราะบับเบิ้ลสร้างโลกขึ้นมาใหม่แบบมีแต่ปริศนาที่ไม่ได้คิดจะเก็บรายละเอียดอธิบายอะไรมากมายให้เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าง พระเอกไปฝึกจากที่ไหนมา จู่ๆ เปิดมาก็เก่งเลยโดยไม่มีการปูเนื้อเรื่องหรือย้อนความใดๆ เกี่ยวกับปาร์กัวทั้งสิ้น การใช้ชีวิตในเรื่องว่าแต่ละคนไปเอาของใช้มาจากไหนก็ไม่มีบอก เมืองน้ำท่วมพังเสียหายหมด มีแค่เลี้ยงไก่ไว้กินไข่ให้ดู ทีมตัวร้ายปาร์กัวใส่หน้ากากเป็นใครมาจากไหนยังไง ทำไมมีรองเท้าพิเศษกว่าคนอื่นก็ไม่มีรายละเอียดเลย

หรือแม้แต่ที่มาของเรื่องบับเบิ้ลมีที่มาจากไหน มันคืออะไร ในเรื่องพยายามเล่าไม่ตรงประเด็นเล่าแค่ว่าทุกอย่างเป็นวัฎจักรก้นหอยเหมือนจักรวาลต้องมาหลอมรวมกัน แต่มันก็ไม่ได้สื่อหรือให้คำตอบอะไรเลยว่าบับเบิ้ลตกลงมาเพราะสาเหตุอะไร แล้วทำไมที่โตเกียวถึงมีบับเบิ้ลขังเอาไว้ คือเรื่องทั้งหมดแทบจะให้คนดูใช้จินตนาการและคิดเอาเองหมด

ซึ่งบอกตรงๆ ว่ามันไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เลยกับการใส่เรื่องมาแบบหลวมๆ แล้วโยนให้คนดูไปคิดเอาเองทั้งหมดแบบนี้ คือถ้าต้องตีความมันก็ควรมีหลักการอะไรยึดโยงให้เห็นบ้าง ในเรื่องนี่เหมือนแค่อยากเล่าเรื่องรักวัยรุ่นแฟนตาซีแล้วก็เลยใส่แบ็คกราวด์แนวไซไฟหลวมๆ เข้ามาให้ได้ขายงานภาพที่น่าตื่นเต้นเท่านั้นเองจริงๆ

ความไม่กระชับรัดกุมของตัวบทนอกจากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่มาต่างๆ แล้ว เรื่องรักก็ถือว่ายังอ่อนอยู่พอกัน ขนาดว่านางเอกเห็นพระเอกปุ๊บรักเลย เป็นรักแรกพบจากฟองสบู่กลายร่างเป็นคนได้ก็ไม่มีอธิบายอะไร เอากันง่ายๆ แบบนั้นเลย แล้วก็พยายามทำให้เรื่องดูมีอุปสรรคซึ้งๆ อย่างนางเอกไม่สามารถแตะตัวพระเอกได้เพราะฟองจะแตกตรงส่วนที่สัมผัสกัน

ซึ่งก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ขัดกับเหตุการณ์ในเรื่องตั้งแต่แรกที่ช่วยพระเอกขึ้นจากน้ำ คือเขียนบทตรงนี้มาเพื่อบิ้วให้มีดราม่าล้วนๆ ชวนให้คนอินเต็มที่ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อินหรือซึ้งไปกับเรื่องราวได้สักเท่าไหร่ อาจจะมีนิดๆ บ้างในตอนจบของเรื่องที่มาตามสูตรดราม่าเศร้าๆ สไตล์ญี่ปุ่นที่คนดูคงรู้อยู่แล้วว่าจะจบแบบนี้ เหตุผลจริงๆ ที่ทำให้เค้าโครงเรื่องมันไม่ค่อยละเอียดหรือชัดเจนเท่าที่ควร อาจจะเป็นเพราะตอนแรกผู้สร้างตั้งใจอยากขายแต่แนวภาพสวยล้ำมาแต่แรกก็ได้ และต้องยอมรับจริงๆ ว่างานภาพในเรื่องนี้สวยมากจริงๆ จากองค์ประกอบที่สร้างมาให้เล่นตรงนี้โดยตรง

จากสีสันที่หลากหลายของฟองสบู่ลอยประกอบฉากอยู่ตลอดเรื่อง ฉากโตเกียวพังทลายใต้น้ำท่วม  แรงดึงดูดที่ผิดปกติและทำให้ซากสิ่งของลอยค้างอยู่บนอากาศ ช่วยให้การเล่นปาร์กัวร์ ฟรีรันนิ่งผ่านซากปรักพังร่วมกับการกระโดดบนฟองสบู่เป็นจุดขายหลักของเรื่อง ผ่านภาพลื่นไหลตามไปยังจุดหวาดเสียวต่างๆ อย่างน่าตื่นเต้น โดยตัวเอกทั้งคู่ต่างก็มีฝีมือเหนือกว่าคู่แข่งแบบโชว์กันอยู่สองคนแทบจะทั้งเรื่องไปเลย ไม่ต้องขายบทลุ้นอะไรกับคู่แข่ง เน้นให้ดูสกิลเทพสองคนนี้ล้วนๆ ซึ่งก็โอเคเพลินดีกับฉากอนิเมชั่นที่ลื่นไหลได้คุณภาพสูงมากขนาดนี้

นอกจากนี้งานภาพยังเน้นที่ตัวนางเอกแบบตั้งใจสุดๆ อย่างเห็นได้ชัดโดดมาจากตัวละครอื่นทั้งหมดไปเลย ซึ่งเข้าใจแหละว่าแนวอนิเมะตัวละครสาวน้อยน่ารักคือจุดขาย และก็ตอบโจทย์เลยเพราะดีไซน์คาแรกเตอร์ เครื่องแต่งกาย นิสัยบ๊องๆ น่ารัก คือสูตรสำเร็จแฟนอนิเมะตรงๆ เลย แล้วยังเน้นความละเอียดลออในลายเส้นความคมพื้นผิวเวลาการถ่ายภาพระยะใกล้ให้ละเอียดชัดสุดๆ เหมือนนางเอกเป็นตัวละคร 4k อยู่คนเดียวทั้งเรื่องแบบนั้นได้เลย

นอกจากภาพแล้วตัวเรื่องยังใช้เสียงดนตรีมาเป็นเนื้อหาหลักร่วมในการบอกเล่าไปพร้อมกับภาพด้วย โดยในเรื่องตัวเอกทั้งคู่จะได้ยินเสียงเพลงลึกลับกันอยู่สองคน ซึ่งจะเป็นเสียงก้องกังวานใสๆ ฟังแล้วไพเราะให้อารมณ์ลึกลับเข้ากับเรื่องได้ดี ในเรื่องยังมีเพลงประกอบเพราะๆ จาก ฮิโรยูกิ ซาวาโนะ นักแต่งเพลงประกอบชื่อดังร่วมอยู่ด้วย

การสร้างมิติและองค์ประกอบของคาแรคเตอร์ตัวละครหลักของเรื่องนี้ ข้างถ่ายทอดออกมาค่อนค้างแข็งแรงในระดับที่ดี ไม่ใช่แค่เพียงตัวละครหลัก อย่าง ฮิบิกี หรือ อุตะ เพียงเท่านั้น ตัวละครสมทบอื่น ๆ ที่อยู่ในหนังก็มีการเกลี่ยให้กับความสำคัญได้แทบจะทุกคาแรกเตอร์ดี และเป็นในฟังก์ชั่นเล็ก ๆ ที่ช่วยมาส่วนเสริมภาพรวมของหนัง และนี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจของอนิเมะเรื่องนี้เลย

ในส่วนของด้านงานภาพสวยและไหลลื่นมาก ตัวภาพของนางเอกน่ารักเก็บรายละเอียดได้สวยสุดๆ ฉากฟรีรันนิ่งล้ำๆ ทำให้ดูแล้วประทับใจมาก และดนตรีประกอบกับเพลงเพราะเข้ากับเรื่องได้อย่างดี ถ้าหากใครอยากดูพากย์ไทยก็มี

เค้าโครงเรื่องไม่หวือหวาเท่าไหร่ ตัวบทอ่อนมากขาดการลงรายละเอียดแบบเชิงลึกแทบจะทุกจุด เนื้อเรื่องเป็นสูตรสำเร็จที่ดูก็รู้ว่าจบแบบธรรมดาตามสูตร ฝ่ายตัวร้ายก็แทบจะไม่มีบทบาทอะไรกับเรื่องเลย

แต่โดยรวมแล้วอนิเมะพากย์ไทยเรื่องนี้ก็ยังถือว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน แม้ว่าความแปลกใหม่อะไรต่าง ๆ จะให้ได้ไม่เยอะนัก หนังยังมีกลิ่นอายของเรื่องดัง ๆ แบบเรื่อง Weathering with You หรือ Your Name อะไรทำนองนั้นอยู่ แต่ด้วยความแข็งแรงในองค์ประกอบของคอนเทนท์ในหนังเรื่องนี้

ทำให้มีทิศทางในการเล่าเรื่องที่ชัดเจน และเล่าเรื่องไปได้ค่อนข้างสุดทางดี อีกทั้งงานออกแบบและดีไซน์ต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างรู้สึกตื่นตาตลอดทั้งเรื่องดี จนอยากจะมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้บนจอใหญ่ ๆ ในโรงหนังเลยทีเดียว

และนี่ถือว่าเป็นอนิเมะที่มีมาตรฐานระดับเข้าโรงภาพยนตร์ที่มาลงใน Netflix ความงดงามของภาพต้องบอกเลยว่าสวยมากๆ เพลินตากับความลื่นไหลสวยงามของฟรีรันนิ่งพร้อมเพลงประกอบเพราะๆ ตัวละครนางเอกที่เก็บดีเทลรายละเอียดได้งามสุดๆ โดดเด่นเป็นหน้าตาหลักของเรื่อง

แต่ตัวบทอ่อนมาก ขาดดีเทลการลงรายละเอียดในทุกเรื่อง จนเหมือนเรากำลังดูงานภาพสวยๆ ที่มีเนื้อเรื่องเป็นแค่ส่วนประกอบแปะพ่วงมาเท่านั้น