รีวิว ghost in the shell 2 มาแล้วจ้าาา กลับมาพบกับทางเราผู้ที่ชื่นชอบการดูอนิเมะเป็นชีวิตจิตใจและมี รีวิวอนิเมะล่าสุด มาฝากเพื่อนๆ อยู่เสมอๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการ ดูหนังออนไลน์ มาดูอนิเมะสนุกๆ

ทางเราก็ขอแนะนำอนิเมะเรื่อง Ghost in the Shell: SAC 2045 ภาค 2 ซึ่งเป็นอนิเมชั่นแนวเดียวกันกับเรื่อง oshi no ko โดยอนิเมะน่าดูเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์อนิเมะภาคต่อของ Ghost in the Shell และในภาคนี้เป็นเรื่องราววของสงครามปี 2045 ทำให้โลกเกิดสงครามโดยไม่มีที่สิ้นสุด การรับมือกับอาชญากรรมไซเบอร์ที่เป็นฝีมือของพวกหลังมนุษย์ เหล่ามนุษย์สายพันธุ์ใหม่ซึ่งจู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นนั้น เหล่าทีม Section9 จะรับมือยังไงไปติดตามชมได้เลยในเรื่องนี้

รีวิว ghost in the shell 2 Ghost in the Shell SAC 2045 หรือที่แฟนชาวไทยมักเรียกกันว่า ผีในเปลือก หรืออีกชื่อผีในหอย เป็นการกลับมาของอนิเมชั่นออนไลน์แอ็กชั่นไซไฟสุดล้ำ ที่เคยเป็นแรงบันดาลใจของผู้สร้าง The Matrix

 

ซึ่งเรื่องนี้มีต้นฉบับจากมังงะที่มีนักวาดชื่อ ชิโร่ มาซามุเนะ ที่มีผลงานแนวแอ็กชั้นไซไฟหลายเรื่อง ส่วนฉบับอนิเมชั่นได้ถูกนำมาดัดแปลงและกำกับในครั้งแรกโดย โอชิอิ มาโมรุ ซึ่งเขาเป็นผู้ที่ทำให้ผลงานเรื่องนี้กลายเป็นไซไฟระดับตำนานแล้วกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับสองพี่น้องวาชอว์สกี้ที่เป็นผู้สร้าง The Matrix อีกด้วย

สำหรับการกลับมาในครั้งนี้ถือว่าเป็นผลงาน original netflix series ที่สร้างด้วย CGI และใช้กราฟฟิก 3D แบบเต็มตัว ซึ่งกำกับโดย ชินจิ อารามากิ และ เคนจิ คามิยามะ ออกแบบตัวละครโดยนักวาดชาวรัสเซีย อิลิยา คูชินอฟสาวกพันธุ์แท้ของเรื่องนี้

 

สามารถรับชมแบบเต็มอิ่มได้แน่ เพราะซีรีย์ขนเอาตัวละครหลักในทีมรุ่นแรก Section9 จากในอนิเมะพากย์ไทยและมังงะแบบมากันครบทีม

เรื่องราวในโลกของ Ghost in the Shell จะเป็นเรื่องราวในยุค Post Human หรือโลกอนาคตข้างหน้าที่มนุษย์เข้าสู่สภาวะที่แตกต่างจากยุคปัจจุบัน ที่มีเครื่องจักร และมนุษย์แทบจะแยกจากกันไม่ออก และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ สงครามไซเบอร์ ที่หลายคนนำมาใช้ประโยชน์ให้กับตนเอง

 

โดยเรื่องนี้จะดำเนินเรื่องราวโดย ผู้พัน โมโตโกะ คุซานางิ ไซบอร์กสาว และสมาชิกทีม Section9 หน่วยปฏิบัติการลับในตำนาน ที่มีฉายาว่า Ghost จากความสามารถในการปฏิบัติงานที่ไม่น่าเป็นไปได้ แล้วพร้อมที่จะหายตัวไปเหมือนกับผี ซึ่งที่ผ่านมา หน่วยของ Section9 ได้สร้างวีรกรรมไว้มากมาย ก่อนที่จะถูกยุบทีมและแยกกันไปตามทางของตัวเอง

 

ในเรื่องเริ่มต้นเรื่องราวในปี 2045 หลังจากทีม Section9 แยกย้ายกันไปแล้ว เวลานั้นทั่วโลกตกอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ เกิดการผิดชำระหนี้ทั่วโลก ภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นรุนแรงที่สุดทำให้โลกเข้าสู่กลียุค รวมถึงการใช้งาน AI ที่ทำให้เกิดสงครามไซเบอร์ในโลกเสมือน อย่างไรก็ตาม คนทั่วไปไม่ได้รู้เลยว่า โลกเสมือน AI เหล่านั้นกำลังผลักดันมนุษยชาติอยู่

ทางด้าน โมโตโกะ และ บาทู รองหัวหน้าทีมคู่ใจของเธอและอดีตสมาชิกทีมบางคนก็ได้เป็นทหารรับจ้างที่รับทำภารกิจจากเศรษฐีในทวีปอเมริกาใต้ แต่มันกลับกลายเป็นการดึงพวกเธอให้เข้ามายุ่งกับภารกิจลับบางอย่างที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐกำลังปฏิบัติการลับอยู่ ซึ่งนำโดย จอห์น สมิธ

 

ในขณะเดียวกัน ไดสุเกะ อารามากิ อดีตหัวหน้าใหญ่ของทีม Section9 ก็ได้วางแผนที่จะช่วยให้โมโตโกะและทีมเก่าทั้งหมดกลับมารวมทีมกันอีกครั้งเพื่อรับภารกิจ พร้อมทั้งรับงานจากรัฐบาลญี่ปุ่นและสหรัฐอย่างเป็นทางการ จึงให้ โทคุสะ อดีตสมาชิกทีมไปสืบหาตัวพวกโมโตโกะ การ์ตูนที่หายตัวไปหลังทำภารกิจเสร็จสิ้น

 

นี่จึงเป็นการกลับมารวมตัวกันของสมาชิก Section9 รุ่นแรกในตำนานที่เคยสร้างวีรกรรมที่น่าเหลือเชื่อไว้มากมาย เพื่อรับงานปฏิบัติการสายลับขั้นสุดยอดในการตามล่ามนุษย์พิเศษพันธุ์ใหม่ ที่จะก่อความวุ่นวายขึ้น

ผู้พัน โมโตโกะ คุซานางิ

ไซบอร์กสาวที่เป็นเครื่องจักรกลทั่วร่าง ทุกคนเรียกกันว่า ผู้พัน มีพละกำลังมากและเป็นผู้นำทีมภาคสนามของ Section9 ในการปฏิบัติทุกภารกิจ ได้รับความเคารพยำเกรงจากทุกคนในทีมมาก บุคลิกนิสัยเป็นคนจริงจัง ตัดสินใจเด็ดขาด มีความคิดเป็นของตนเอง แต่ก็เชื่อใจสมาชิกในทีมมากพอสมควร มักคอยดูแลใส่ใจสมาชิกในทีมอยู่เสมอ แต่ไม่ค่อยเปิดปากตรงๆ มากนัก

 

บาตู

เป็นเสมือนรองหัวหน้าของทีม Section9 และยังเป็นหน่วยหน้าประจำทีมด้วย เดิมเป็นทหารรับจ้างที่ได้มาเข้าทีม ว่ากันว่าตัวละครนี้เป็นเสมือนตัวแทนของผู้กำกับโอชิอิ ที่กำกับเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 1995 เพราะในภาพยนตร์และซีรีส์ฉบับก่อนหน้านี้ เราจะได้ดูเรื่องราวผ่านมุมมองของเขาบ่อยครั้ง

 

บาตู

มีดวงตาไซเบอร์ที่ใช้งานในภารกิจ รวมถึงมีพละกำลังมากจากอุปกรณ์ไซเบอร์ทั้งแขนและขา เขามีตำแหน่งสายบัญชาการในทีมคล้ายกับอิชิคาว่า และมักออกงานภาคสนามร่วมกับโทคุสะบ่อยครั้ง เขาเป็นหนึ่งในคนที่มีคารมกับโมโตโกะบ่อยๆ และเป็นหนึ่งในคนที่สนิทสนมกับเธอมากที่สุดด้วย

 

ไดสุเกะ อารามากิ

หัวหน้าใหญ่ของ Section9 เขาเป็นเสมือนมันสมอง เสนาธิการ และผู้ออกคำสั่งสูงสูดของทีม มีความสามารถในการวางกลยุทธ์ การเจรจา ล็อบบี้กับผู้มีอิทธิพลระดับสูง และยังมีความสามารถในทางทหารด้วย

 

โทคุสะ

สมาชิกของทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นสมาชิกคนเดียวที่มีร่างกายเป็นมนุษย์ธรรมดาที่สุด เดิมเป็นตำรวจ แต่งงานและมีลูกสองคน มีความสามารถด้านการสืบสวนระดับสูง มักออกงานภาคสนามกับบาตู สำหรับในภาคล่าสุด เขาได้ทำเรื่องหย่ากับภรรยา เพื่อที่จะมาปฏิบัติการร่วมกับ Section9 โดยไม่ต้องมีข้อกังวล

อิชิคาว่า

ผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์ข้อมูลประจำทีม เป็นสมาชิกที่อาวุโสที่สุดในงานภาคสนามของทีม และมีสายบัญชาการในทีมรองจากโมโตโกะ สนิทสนมกับบาตูและคอยสนับสนุนในงานภาคสนามกันเสมอ ถือว่าเป็นสมาชิกรุ่นแรกของทีมที่เชื่อถือได้

 

ไซโต้

มือสไนเปอร์ตาเดียวประจำทีม เชี่ยวชาญการลอบยิง มีสมาธิสูง นิสัยชอบการพนัน เป็นหนึ่งในทีมภาคสนามคนสำคัญที่ร่วมในแนวหน้าแทบจะทุกภารกิจ

 

บอร์ม่า

ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธระเบิดประจำทีม ทำงานเป็นหน่วยสนับสนุนในแนวหลังเหมือนกับพาสุบ่อยครั้ง

 

พาสุ

อดีตสมาชิกยากูซ่า เชี่ยวชาญด้านการสืบสวน ต่อสู้ประชิดตัว และแทรกซึม

 

หุ่นรบประจำทีม

ในซีรีส์ฉบับนี้ มีออกมาครบทั้งหมดสามตัวที่เคยปรากฏตัวในทุกฉบับคือ ทาชิโกม่า ฟูชิโกม่า โลจิโคม่า

สำหรับเรื่องนี้การเล่าเรื่องก็ยังคงคอนเซปในเรื่องของเทคโนโลยีและความล้ำสมัยของโลกได้เป็นอย่างดี ยังคงความจริงจังด้านเนื้อหาไว้ได้ มีแต่เรื่องที่ผู้ใหญ่เจนโลกบ้าการเมืองและสงครามเท่านั้นถึงจะเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนักการเมือง เรื่องระบอบการปกครอง

 

การถือสัญชาติใหม่แบบผิดกฎหมาย การลักลอบเข้าเมือง การเจาะระบบโดยใช้เทคนิคต่างๆ วิธีคิดในการเอาชนะสงครามโดยใช้วิทยาการล้ำๆ ขณะเดียวกันในเรื่องก็ยังคงความโหดไว้อยู่ ฉากระเบิดหัวเลือดสาดก็มี ฉากที่รถวิ่งเหยียบคนเต็มๆ ก็ยังมีกันให้เห็นจะๆ อยู่

   

ในด้านรายละเอียดปลีกย่อยของเนื้อหาต่างๆ ยังดูไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่ ซึ่งปัญหาหลายอย่างมักจะมาจากตัวละครบ้าง ตัวละครบางตัวก็ทำมาเก่งเกินไป สามารถหลบกระสุนได้ด้วยร่างกายที่พลิ้วเกินมนุษย์ ตีลังกาหลายสิบตลบหมุนควงสว่านได้ แต่กลายเป็นว่าพอถึงจุดที่เหมือนหมดประโยชน์กับเนื้อเรื่องแล้ว

 

พวกเขาก็โดนกระสุนยิงเข้าเต็มๆ แล้วก็แพ้เอาดื้อๆ ไม่คิดที่จะหลบอะไรเลย หรือบางทีตัวละครที่เป็นบอดี้การ์ดของคนสำคัญในเรื่องจู่ๆ ก็เกิดอาการเอ๋อขึ้นมาเลยทีเดียว เจ้านายโดนฆ่าต่อหน้าแต่กลับแค่ชูปืนขึ้น มองซ้ายมองขวา

 

แล้วก็เรียกให้คนมาช่วย แต่กลับไม่คิดจะหันไปยิงคนร้ายสักนัดทั้งๆ ที่เขาก็อยู่ตรงนั้น เหมือนพอเป็นตัวประกอบเมื่อไหร่ทุกตัวละครก็จะปัญญาอ่อนขึ้นมาโดยทันที ไม่ว่าจะเป็นคนหรือหุ่นยนต์ ซึ่งดูแล้วมันออกจะเกินไปสักหน่อย มันไม่มีความสมจริงเลยสักนิด

 

ด้านจังหวะและการนำเสนอก็ดูน่าผิดหวังในหลายๆ จุด มันมีความโชเน็นมากๆ ดูพยายามทำให้แฟรนไชส์นี้ดูน่ารัก ดูเฮฮา ปั่นป่วนมากขึ้น อยากเป็นอนิเมะสายหลักเกินไป ซึ่งนี่มองว่ามันไม่เข้ากับความจริงจังที่เคยมีมาสักเท่าไหร่

 

เต็มไปด้วยมุขตลกเจื่อน โบ๊ะบ๊ะๆ ไหนจะเต็มไปด้วยสาวที่เป็นมนุษย์จริงหรือสาวโรบอทพยายามทำเสียงและท่าทางน่ารักคิกขุอยู่ตลอดในทุกตอน มันดูไม่เหมาะกับแฟรนไชส์นี้อย่างหนักเลย

และส่วนหนึ่งที่อาจทำร้ายจิตใจแฟนๆ ของตัวละครผู้พันโมโตโกะโดยตรงก็คือความเซ็กซี่ของผู้พันนั้นหายไปแล้ว คือหายไปเลย ใส่เสื้อมิดชิดเสื้อวอร์มเหมือนกำลังเล่นกีฬาอยู่ตลอดเวลาเลย เชื่อว่าแฟนๆ เดนตายหลายคนก็คงไม่น่าจะพอใจกับการเปลี่ยนดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของผู้พันเท่าไหร่นัก

 

โปรดัคชั่นในภาพรวมเอาตรงๆ ก็ค่อนข้างน่าผิดหวังแหละนะ เพราะเรื่อง Ghost in the Shell ไม่ว่าภาคไหน หรือแม้แต่ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์อนิเมชั่นมักจะขึ้นชื่อเรื่องงานภาพเอามากๆ โดยเฉพาะกับเวอร์ชั่นอนิเมะนั้นแต่ละภาคเต็มไปด้วยคุณภาพสุดยอด ช็อตแต่ละช็อตฉากแต่ละฉากนี่เก็บงานอย่างละเอียดเอามากๆ สัดส่วนตัวละคร สีที่เลือกใช้ การเคลื่อนไหวของตัวละคร ทุกอย่างคือเป๊ะมากๆ

 

แต่นี่แค่เห็นตัวอย่างก็บอกเลยว่าน่าผิดหวังแล้วล่ะ เหมือนเทคนิคกลายเป็นแบบเซลเฉดไปแล้ว แค่สไตล์ภาพที่ใช้นำเสนอนี่ว่าก็ผิดแล้ว เพราะความจริงแล้วรู้สึกว่าพอเป็นซีรีย์ที่จริงจังขนาดนี้ ลงทุนทำเป็น Cinematic แบบสมจริง เป็นแบบฉากคัทซีนของไฟนอลแฟนตาซี อะไรแบบนั้นจะเหมาะกว่า แล้วไหนจะปัญหาเรื่องการขยับของตัวละครที่แข็งทื่อไร้ชีวิตชีวา สีหน้าที่บ่งบอกความรู้สึกไม่ชัดเลยสักตัว

 

และการดีไซน์โลกในภาคนี้ที่รู้สึกว่าจะแอบโล่งไปหน่อย รายละเอียดที่ทุกภาคเคยทำมาอย่างดีมันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ แต่อย่างว่ามันอาจเป็นปัญหาเรื่องงบกับเวลา หรือบางทีเน็ตฟลิกซ์ พากย์ไทยอาจมีงบให้เท่านี้ และเพียงต้องการปั้นจำนวนคอนเทนท์ลงบ้านตัวเองก็ได้

ในเนื้อเรื่องสนุก การดำเนินเรื่องกระชับ รวดเร็วดี ในส่วนของฉากแอ็กชั่นทำได้ดีตลอดทั้งเรื่อง การเขียนบทแบบมีชั้นเชิง เกลี่ยบทได้เยี่ยม ตัวละครในทีม Section9 มีบทสำคัญทุกตัว เป็นการเซอร์วิสแฟนคลับรุ่นเก่า เขียนบทตัวละครดี

 

ดังนั้นแฟนรุ่นใหม่ใช้เวลาไม่นานก็น่าจะอินกับตัวละครในทีมได้อย่าวไม่ยาก งานภาพ 3D ทำได้ดีในฉากเข้าโลกไซเบอร์ และพวกฉากเมืองต่างๆ จิกกักสภาพของโลกจริง จำลองภาพปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลกว่าถ้าเกิดขึ้นจะเป็นยังไง น่าจะเป็นการขยายจักรวาล Ghost in the Shell สำหรับเด็กรุ่นใหม่และตลาด Mass ที่ดูดี ยังมีการแฝงปรัชญาเรื่องชีวิตจากอนิเมะฉบับเก่าได้เนียนดี

งานภาพ 3D แข็งทื่อมากในตอนช่วงเปิดเรื่องแล้วถึงจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ในตอนหลังก็ยังแข็งอยู่ดี เรื่องไม่ค่อยปราณีกับคนที่ไม่เคยติดตามเรื่องนี้มาก่อน คนเพิ่งเคยดูอาจจะงงกับความสัมพันธ์ตัวละครในทีมกับระบบต่างๆ ในเรื่อง และลดเรตความแรงของเรื่องลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ทำให้ขายเด็กและคนทั่วไปได้อยู่

 

การนำเสนอปรัชญาในเรื่องลดหายไปเยอะมากจากฉบับเก่า แต่ทดแทนด้วยการเล่าเรื่องที่กระชับได้ใจความดี ดีไซน์รูปร่างของนางเอกโมโตโกะอาจจะไม่ถูกใจแฟนรุ่นเก่าสักเท่าไหร่ แต่เข้าใจได้ว่าต้องการลดเรต 18 บวก ลงมา เรื่องนี้จุดขายคือ ความเก่งกาจและความเวอร์วังของทีม Section9 ตัวละครในทีมเลยไม่ตายแน่นอน จึงไม่มีลุ้นดราม่าตรงนี้ แต่จะลุ้นว่าพวกเขาจะแก้ปัญหายังไงมากกว่า

การกลับมาของอนิเมชั่น แอนิเมชั่นไซไฟสุดล้ำนี้ ที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สร้าง The Matrix สาระที่ต้องการถ่ายทอดยังดีเยี่ยมอยู่ เนื้อหาก็จะแตกต่างจากภาคเก่า คนที่เพิ่งจะเริ่มดูก็สามารถดูได้เลย แต่งาน 3D แข็งมาก ต้องรอดูว่าซีซัน2 จะดีขึ้นไหม

 

โกสต์ อิน เดอะ เชลล์ SAC 2045 (Ghost in the Shell SAC 2045) จึงเป็นซีรีย์ที่ยังคงคุณภาพเรื่องคอนเซปและความล้ำด้านเทคโนโลยีไว้ได้อย่างดี น่าสนใจ ยังคงมีความจริงจังแบบผู้ใหญ่มองโลก การเมือง สังคม และตัวซีรีย์ก็ยังมีความโหดอยู่มาก

 

ต่อยคนหัวระเบิดเลยทีเดียว แต่กลับมาปัญหามากด้านการเล่าเรื่องอยู่ จังหวะเรื่อง ตรรกะตัวละครหลายจุดก็ยังดูประหลาดไปหมด ผู้พันโมโตโกะเปลี่ยนดีไซน์ไปมากจนถือว่าผิดคอนเซปความเซ็กซี่สำหรับแฟนๆ ก็ว่าได้ ส่วนงานโปรดัคชั่นเองก็น่าผิดหวัง

ทั้งเรื่องรูปแบบของภาพที่ใช้ และการเคลื่อนไหวของตัวละครที่ทั้งแข็งทื่อ เคลื่อนที่ประหลาด สีหน้าตัวละครไม่ชัดเจน ถ้าใครสนใจซีรีส์ที่มีความน่าสนใจด้านเทคโนโลยีสุดล้ำที่น่าจะเอาไปต่อยอดในอนาคตได้ ก็แนะนำเรื่องนี้ แต่อย่าคาดหวังส่วนอื่นไหร่